พุทธวจน

ลักษณะของภิกษุผู้มีศีล (นัยที่ ๓)

ภิกษุนั่งสมาธิท่ามกลางสิ่งล่อลวงในโลกย์ เช่น เดรัจฉานวิชา การแสดง การทำเกษตร และการสะสม

สารบัญ

ในยุคที่ศีลธรรมถูกตีความอย่างกว้างขวาง คำถามสำคัญคือ “ภิกษุผู้มีศีลแท้จริงในพุทธศาสนา ควรเป็นอย่างไร?” คำตอบชัดเจนในพระสูตรพุทธวจน โดยเฉพาะจาก บาลี สี. ที. ๙/๘๓/๑๐๓ ที่แสดงลักษณะของภิกษุผู้สมบูรณ์ในศีลไม่ใช่เพียงแค่งดเว้นผิดศีล ๕ หรือ ๒๒๗ แต่รวมถึงการ ไม่ยุ่งเกี่ยวกับวิถีโลกย์ทั้งปวง — แม้กระทั่งกิจกรรมที่คนทั่วไปถือว่าเป็น “ธรรมดา” ของสังคม


1. เว้นจากการทำพืชคาม-ภูตคาม

พระพุทธเจ้าทรงยกตัวอย่างภิกษุบางรูปที่รับบาตรจากญาติโยมแล้วกลับไปทำการเกษตร เช่น เพาะปลูกพืช หรือเกี่ยวข้องกับภูตผี — สิ่งเหล่านี้พระองค์ตรัสว่า “เว้นขาด” เพราะไม่สอดคล้องกับวิถีของผู้แสวงหานิพพาน

🔗 เพิ่มเติม: ศีลที่เกี่ยวข้องกับชีวิตสมณะ


2. เว้นจากการบริโภคสะสม

แม้ฉันภัตตาหารตามที่ทายกถวาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ “เว้นขาดจากการสะสม” อาทิ ข้าว น้ำ ผ้า พาหนะ เตียง ของหอม และอามิสต่าง ๆ — เพื่อฝึกความไม่ยึดมั่นและละการสะสมในใจ


3. เว้นจากการดูการละเล่น

พระสูตรนี้ถึงขั้นลงรายละเอียดถึง รูปแบบบันเทิงต่าง ๆ ที่ภิกษุไม่พึงข้องเกี่ยว เช่น ฟังเพลง ฟ้อนรำ ฟังนิยาย ชนสัตว์ ดูละคร การแข่งขันกีฬาทั้งหลาย — สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งเบี่ยงเบนจากความเพียรทางจิต


4. เว้นจากเดรัจฉานวิชา

หัวใจหลักของพระสูตรนี้คือการ ไม่เลี้ยงชีวิตด้วยเดรัจฉานวิชา ได้แก่:

  • ทำนายฝัน ลางดีลางร้าย โหราศาสตร์ ฤกษ์ยาม
  • พิธีกรรมบูชาพลีกรรม เสกเป่า ร่ายมนต์
  • ดูดวง ทายอายุ เสียงสัตว์ องค์เทพ ผีสาง
  • ประกอบยาสามัญ ยาสมุนไพร ยาเวท หมอกุมาร หมอผ่าตัด

พระองค์ตรัสชัดว่า “เว้นขาด” ไม่ใช่แค่ “งดเว้นบางคราว”

🔗 เพิ่มเติม: เดรัจฉานวิชาในพุทธวจน


สรุป

ศีลของภิกษุในพุทธวจนไม่ได้จำกัดเพียงข้อห้ามทั่วไป แต่เป็นการ ปฏิเสธวิถีโลกย์ ทุกมิติ — ตั้งแต่ความบันเทิง การสะสมทรัพย์สมบัติ การประกอบอาชีพที่ไม่บริสุทธิ์ ไปจนถึงการอ้างอิงไสยศาสตร์และเวทมนตร์

การมีศีลในทางพุทธวจน คือ การละออกอย่างสิ้นเชิงจากโลกียะ เพื่อแสวงหาความหลุดพ้นอย่างแท้จริง


บทความอื่นที่น่าสนใจ:


แหล่งอ้างอิง

พระสูตรต้นฉบับ (พุทธวจน เล่มเล็ก ฉบับที่ 9 ปฐมธรรม)

[๑๒๔ ลักษณะของภิกษุผู้มีศีล (นัยที่ ๓)]

-บาลี สี. ที. ๙/๘๓/๑๐๓.
 
อีกอย่างหนึ่ง เมื่อสมณะหรือพราหมณ์บางพวก ฉันโภชนะที่ทายกถวายด้วยศรัทธาแล้ว ท่านเหล่านั้นยังทำพีชคามและภูตคามให้กำเริบ, คืออะไรบ้าง ? คือพืชที่เกิดแต่ราก พืชที่เกิดแต่ต้น พืชที่เกิดแต่ผล พืชที่เกิดแต่ยอด และพืชที่เกิดแต่เมล็ดเป็นที่ห้า. ส่วนภิกษุในธรรมวินัยนี้ เธอเว้นขาดจากการทำพีชคามและภูตคาม เห็นปานนั้น ให้กำเริบแล้ว แม้นี้ ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง. 
 
อีกอย่างหนึ่ง เมื่อสมณะหรือพราหมณ์บางพวก ฉันโภชนะที่ทายกถวายด้วยศรัทธาแล้ว ท่านเหล่านั้นยังเป็นผู้ทำการบริโภคสะสมอยู่เนืองๆ, คืออะไรบ้าง ? คือสะสมข้าวบ้าง สะสมน้ำดื่มบ้าง สะสมผ้าบ้าง สะสมยานพาหนะบ้าง สะสมเครื่องนอนบ้าง สะสมของหอมบ้าง สะสมอามิสบ้าง. ส่วนภิกษุในธรรมวินัยนี้ เธอเว้นขาดจากการบริโภคสะสมเห็นปานนั้นเสียแล้ว แม้นี้ ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง.
 
อีกอย่างหนึ่ง เมื่อสมณะหรือพราหมณ์บางพวก ฉันโภชนะที่ทายกถวายด้วยศรัทธาแล้ว ท่านเหล่านั้นยังเป็นผู้ดูการละเล่นกันอยู่เนืองๆ, คืออะไรบ้าง ? คือดูฟ้อน ฟังขับ ฟังประโคม ดูไม้ลอย ฟังนิยาย ฟังเพลงปรบมือ ฟังตีฆ้อง ฟังตีระนาด ดูหุ่นยนต์ ฟังเพลงขอทาน ฟังแคน ดูเล่นหน้าศพ ดูชนช้าง แข่งม้า ชนกระบือ ชนโค ชนแพะ ชนแกะ ชนไก่ ชนนกกระทา ดูรำไม้ รำมือ ชกมวย ดูเขารบกัน ดูเขาตรวจพล ดูเขาตั้งกระบวนทัพ ดูกองทัพที่จัดไว้. ส่วนภิกษุในธรรมวินัยนี้ เธอเว้นขาดจากการดูการเล่นเห็นปานนั้นเสียแล้ว แม้นี้ ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง,
 
อีกอย่างหนึ่ง เมื่อสมณะหรือพราหมณ์บางพวก ฉันโภชนะที่ทายกถวายด้วยศรัทธาแล้ว ท่านเหล่านั้นยังสำเร็จการเป็นอยู่ด้วยการเลี้ยงชีวิตผิด เพราะทำเดรัจฉานวิชา เห็นปานนี้อยู่, คืออะไรบ้าง ? คือทายลักษณะในร่างกายบ้าง ทายนิมิตลางดีลางร้ายบ้าง ทายอุปปาตะ คือของตกบ้าง ทำนายฝัน ทายชะตา ทายผ้าหนูกัด ทำพิธีโหมเพลิง ทำพิธีเบิกแว่นเวียนเทียน ทำพิธีซัดโปรยแกลบ ทำพิธีซัดโปรยรำ ทำพิธีซัดโปรยข้าวสาร ทำพิธีจองเปรียง ทำพิธีจุดไฟบูชา ทำพิธีเสกเป่า ทำพิธีพลีด้วยโลหิตบ้าง เป็นหมอดูอวัยวะร่างกาย หมอดูภูมิที่ตั้งบ้านเรือน ดูลักษณะไร่นา เป็นหมอปลุกเสก เป็นหมอผี เป็นหมอทำยันต์กันบ้านเรือน หมองู หมอดับพิษ หมอแมลงป่อง หมอหนูกัด หมอทายเสียงนก เสียงกา หมอทายอายุ หมอกันลูกศร หมอดูรอยสัตว์. ส่วนภิกษุในธรรมวินัยนี้ เธอเว้นขาดจากการเลี้ยงชีวิตผิด เพราะทำเดรัจฉานวิชา เห็นปานนั้นเสียแล้ว. แม้นี้ ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง,
 
อีกอย่างหนึ่ง เมื่อสมณะหรือพราหมณ์บางพวก ฉันโภชนะที่ทายกถวายด้วยศรัทธาแล้ว ท่านเหล่านั้นยังสำเร็จการเป็นอยู่ด้วยการเลี้ยงชีวิตผิด เพราะทำเดรัจฉานวิชา เห็นปานนี้อยู่, คืออะไรบ้าง ? คือทำนายจันทรคราส สุริยคราส นักษัตรคราส ทำนายดวงจันทร์ ดวงอาทิตย์ ดาวพระเคราะห์ ว่าจักเดินในทางบ้าง นอกทางบ้าง, ทำนายว่า จักมีอุกกาบาต ฮูมเพลิง แผ่นดินไหว ฟ้าร้องบ้าง ทำนายการขึ้น การตก การหมอง การแผ้วของดวงจันทร์ ดวงอาทิตย์และดาว จะมีผลเป็นอย่างนั้นๆ ดังนี้บ้าง. ส่วนภิกษุในศาสนานี้เธอเว้นขาดจากการเลี้ยงชีวิตผิด เพราะทำเดรัจฉานวิชา เห็นปานนั้นเสียแล้ว. แม้นี้ ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง,
 
อีกอย่างหนึ่ง เมื่อสมณะหรือพราหมณ์บางพวก ฉันโภชนะที่ทายกถวายด้วยศรัทธาแล้ว ท่านเหล่านั้นยังสำเร็จการเป็นอยู่ด้วยการเลี้ยงชีวิตผิด เพราะทำเดรัจฉานวิชา เห็นปานนี้อยู่, คืออะไรบ้าง ? คือ ทำนายว่าจักมีฝนดีบ้าง จักมีฝนแล้งบ้าง อาหารหาง่าย อาหารหายาก จักมีความสบาย จักมีความทุกข์ จักมีโรค จักไม่มีโรคบ้าง ทำนายการนับคะแนน คิดเลข ประมวล, แต่งกาพย์กลอน สอนตำราว่าด้วยทางโลก ดังนี้บ้าง. ส่วนภิกษุในธรรมวินัยนี้เธอเว้นขาดจากการเลี้ยงชีวิตผิด เพราะทำเดรัจฉานวิชา เห็นปานนั้นเสียแล้ว.  แม้นี้ ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง,
 
อีกอย่างหนึ่ง เมื่อสมณะหรือพราหมณ์บางพวก ฉันโภชนะที่ทายกถวายด้วยศรัทธาแล้ว ท่านเหล่านั้นยังสำเร็จการเป็นอยู่ด้วยการเลี้ยงชีวิตผิด เพราะทำเดรัจฉานวิชา เห็นปานนี้อยู่, คืออะไรบ้าง ? คือ ดูฤกษ์อาวาหะ ดูฤกษ์วิวาหะ ดูฤกษ์ทำการผูกมิตร ดูฤกษ์ทำการแตกร้าว ดูฤกษ์ทำการเก็บทรัพย์ ดูฤกษ์ทำการจ่ายทรัพย์, ดูโชคดีโชคร้ายบ้าง, ให้ยาบำรุงครรภ์บ้าง ร่ายมนต์ผูกยึด ปิดอุดบ้าง, ร่ายมนต์สลัด ร่ายมนต์กั้นเสียง เป็นหมอเชิญผีถามบ้าง เชิญเจ้าเข้าหญิงถามบ้าง ถามเทวดาบ้าง ทำพิธีบวงสรวงพระอาทิตย์ บวงสรวงมหาพรหม ร่ายมนต์พ่นไฟ ร่ายมนต์เรียกขวัญให้บ้าง. ส่วนภิกษุในธรรมวินัยนี้ เธอเว้นขาดจากการเลี้ยงชีวิตผิด เพราะทำเดรัจฉานวิชา เห็นปานนั้นเสียแล้ว.  แม้นี้  ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง,
 
อีกอย่างหนึ่ง เมื่อสมณะหรือพราหมณ์บางพวก ฉันโภชนะที่ทายกถวายด้วยศรัทธาแล้ว ท่านเหล่านั้นยังสำเร็จการเป็นอยู่ด้วยการเลี้ยงชีวิตผิด เพราะทำเดรัจฉานวิชา เห็นปานนี้อยู่, คืออะไรบ้าง ? คือ บนขอลาภผลต่อเทวดา ทำการบวงสรวงแก้บน สอนมนต์กันผีกันบ้านเรือน ทำกะเทยให้เป็นชาย ทำชายให้เป็นกะเทย ทำพิธีปลูกเรือน ทำการบวงสรวงในที่ปลูกเรือน พ่นน้ำมนต์ บูชาเพลิงให้บ้าง ประกอบยาสำรอกให้บ้าง ประกอบยาประจุ ประกอบยาถ่ายโทษข้างบน ประกอบยาแก้ปวดศีรษะ หุงน้ำมันหยอดหู ทำยาหยอดตา ประกอบยานัตถุ์ ประกอบยาทำให้กัด ประกอบยาทำให้สมาน เป็นหมอป้ายยาตา เป็นหมอผ่าบาดแผล เป็นหมอกุมาร หมอพอกยาแก้ยาให้บ้าง. ส่วนภิกษุในธรรมวินัยนี้ เธอเว้นขาดจากการเลี้ยงชีวิตผิด เพราะทำเดรัจฉานวิชา เห็นปานนั้นเสียแล้ว. แม้นี้ ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง.

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *