พุทธวจน

สมาธิเพื่อดับกิเลส: ฝึกจิตเจริญภาวนาแบบพุทธวจน

สมาธิเพื่อดับกิเลสแบบพุทธวจนในจิตรกรรมไทยประยุกต์

สารบัญ

หลายคนที่เริ่มฝึกสมาธิ อาจยังไม่เข้าใจว่า "สมาธิแบบใด" ถึงจะสามารถเปลี่ยนจิตที่เร่าร้อน ฟุ้งซ่าน หรือเต็มไปด้วยความโลภ โกรธ หลง ให้สงบ เย็น และบริสุทธิ์ได้อย่างแท้จริง คำตอบนี้ถูกอธิบายไว้อย่างชัดเจนในพระสูตรที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสสอนพระราหุลใน บาลี ม. ม. ๑๓/๑๔๐/๑๔๕ ว่าด้วยการเจริญสมาธิแบบต่างๆ ที่มีอานิสงส์จำเพาะในการขจัดกิเลสแต่ละประเภท


สมาธิที่มีเป้าหมายเฉพาะในการดับกิเลส

1. เมตตาภาวนา — ดับพยาบาท

"เมื่อเธอเจริญเมตตาภาวนาอยู่ พยาบาทจักละไป"

เมตตาภาวนา คือการแผ่ความปรารถนาดีต่อสรรพสัตว์ทั้งหลายอย่างไม่มีประมาณ เมื่อจิตเปี่ยมด้วยเมตตา ความโกรธ ความอาฆาต ย่อมไม่มีที่ตั้งในจิตใจ เป็นการล้างรากเหง้าของพยาบาทอย่างลึกซึ้ง

🔗 อ่านต่อเรื่องเมตตาในพุทธวจน


2. กรุณาภาวนา — ดับวิหิงสา

"เมื่อเธอเจริญกรุณาภาวนาอยู่ วิหิงสาจักละไป"

กรุณาคือความหวังดีที่อยากให้ผู้อื่นพ้นทุกข์ จิตใจที่เปี่ยมด้วยกรุณาจะไม่คิดเบียดเบียน ไม่ทำร้าย ทั้งทางกาย วาจา หรือแม้แต่ทางความคิด


3. มุทิตาภาวนา — ดับอรติ

"เมื่อเธอเจริญมุทิตาภาวนาอยู่ อรติจักละไป"

มุทิตาคือความยินดีต่อความสำเร็จของผู้อื่น การภาวนาเช่นนี้จะช่วยขจัดความอิจฉา ความริษยา และใจที่ไม่อยากเห็นใครดีเกินหน้าเรา


4. อุเบกขาภาวนา — ดับปฏิฆะ

"เมื่อเธอเจริญอุเบกขาอยู่ ปฏิฆะจักละไป"

อุเบกขาในที่นี้หมายถึง ความวางเฉยอย่างมีสติ ไม่หวั่นไหวกับสุขหรือทุกข์ เป็นภาวะจิตที่มั่นคง ไม่หวั่นไหวในอารมณ์กระทบจากภายนอก


5. อสุภะภาวนา — ดับราคะ

"เมื่อเธอเจริญอสุภะภาวนาอยู่ ราคะจักละไป"

อสุภะ คือการเห็นความไม่งามของร่างกายอย่างตรงตามความเป็นจริง เพื่อทำลายความยึดติดและความหลงใหลในรูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส


6. อนิจจสัญญาภาวนา — ดับอัสมิมานะ

"เมื่อเธอเจริญอนิจจสัญญาภาวนาอยู่ อัสมิมานะจักละไป"

อนิจจสัญญาเป็นการพิจารณาเห็นความไม่เที่ยงในสรรพสิ่ง เมื่อเห็นชัดเจนว่าทุกอย่างไม่คงที่ จิตจะปล่อยวางความสำคัญว่า “ตัวตน” และสิ่งใด “ของตน”


สรุป: สมาธิแบบพุทธวจนคือการปฏิบัติเพื่อล้างกิเลสอย่างจำเพาะ

พระพุทธเจ้าไม่ได้สอนให้ทำสมาธิเพียงเพื่อความสงบเฉย ๆ แต่ทรงชี้ว่า สมาธิต้องเป็นไปเพื่อ การขัดเกลากิเลส ทีละอย่างอย่างมีเป้าหมายชัดเจน

จึงไม่ใช่สมาธิแบบใดก็ได้ แต่ต้องเป็น “สมาธิที่ถูกต้อง” ตรงตามธรรมะของพระตถาคต


บทความอื่นที่น่าสนใจ:

แหล่งอ้างอิง:

พระสูตรต้นฉบับ (พุทธวจน)

[อานิสงส์แห่งการปฏิบัติสมาธิแบบต่างๆ]

-บาลี ม. ม. ๑๓/๑๔๐/๑๔๕.
 
ราหุล !  เธอจง เจริญเมตตาภาวนา เถิด. เมื่อเธอเจริญเมตตาภาวนาอยู่,  พยาบาท จักละไป.
ราหุล !  เธอจง เจริญกรุณาภาวนา เถิด. เมื่อเธอเจริญกรุณาภาวนาอยู่,  วิหิงสา (ความคิดเบียดเบียน) จักละไป.
ราหุล !  เธอจง เจริญมุทิตาภาวนา เถิด. เมื่อเธอเจริญมุทิตาภาวนาอยู่,  อรติ (ความไม่ยินดีด้วยใครๆ) จักละไป.
ราหุล !  เธอจง เจริญอุเบกขา เถิด. เมื่อเธอเจริญอุเบกขาอยู่,  ปฏิฆะ (ความหงุดหงิดแห่งจิต) จักละไป.
ราหุล !  เธอจง เจริญอสุภะภาวนา เถิด. เมื่อเธอเจริญอสุภะภาวนาอยู่, ราคะ  จักละไป.
ราหุล !  เธอจง เจริญอนิจจสัญญาภาวนา เถิด. เมื่อเธอเจริญอนิจจสัญญาภาวนาอยู่, อัส๎มิมานะ (ความสำคัญว่าตัวตนและของตน) จักละไป.

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *