มหาทาน ๕ ประการ: การให้ที่ประเสริฐสุดตามคำสอนพระพุทธเจ้า
สารบัญ
Toggleในชีวิตประจำวัน หลายคนเข้าใจคำว่า “ทาน” แค่เพียงการให้สิ่งของ เช่น อาหาร เงิน หรือสิ่งจำเป็นแก่ผู้อื่น แต่ในคำสอนของพระพุทธเจ้า ทานที่สูงสุดนั้น ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงการให้วัตถุภายนอกเท่านั้น แต่ยังหมายถึงการให้สิ่งที่ล้ำลึกกว่า คือ “การให้ความปลอดภัย ความไม่มีเวร และความไม่มีการเบียดเบียน” ซึ่งท่านเรียกว่า มหาทาน — การให้ที่เป็นเลิศ ประเสริฐ และไม่ถูกทอดทิ้งในกาลทั้งสาม
มหาทานนี้ ไม่ได้เกิดจากการเสียสละทรัพย์อย่างเดียว แต่เกิดจากการปฏิบัติศีลข้อพื้นฐาน ที่ทำให้ผู้อื่นได้รับความสงบปลอดภัยอย่างแท้จริง
มหาทานจากศีล ๕
พระพุทธองค์ตรัสว่า อริยสาวกผู้เว้นขาดจากการฆ่าสัตว์ ย่อมให้ อภัยทาน อเวรทาน และอัพยาปัชฌทาน แก่สรรพสัตว์อย่างไม่มีประมาณ นั่นคือ การให้ความปลอดภัยจากความตาย การให้ความไม่มีเวร และการให้ความไม่มีการเบียดเบียน
หลักการนี้ใช้ได้กับศีลข้ออื่น ๆ ด้วย
เว้นจากการลักทรัพย์ → ให้ความปลอดภัยต่อทรัพย์สิน
เว้นจากการประพฤติผิดในกาม → ให้ความปลอดภัยต่อครอบครัวและความสัมพันธ์
เว้นจากการพูดเท็จ → ให้ความปลอดภัยทางใจ และความเชื่อมั่นในสังคม
เว้นจากการดื่มสุราเมรัย → ให้ความปลอดภัยจากอันตรายที่เกิดจากความประมาท
เหตุที่เรียกว่า “มหาทาน”
พระองค์ตรัสว่า ทานเหล่านี้เป็นของเลิศ มีมาแต่โบราณ ไม่เคยถูกทอดทิ้ง และจะไม่ถูกทอดทิ้งในอนาคต สมณพราหมณ์ผู้รู้ไม่คัดค้าน เพราะเป็น ท่อธารแห่งบุญ เป็นเหตุให้เกิดสุข ทั้งในปัจจุบันและอนาคต เป็นปัจจัยให้ไปสู่สุคติและสวรรค์
การให้แบบนี้ ไม่ต้องใช้ทรัพย์สิน แต่ต้องใช้ ความตั้งใจและการฝึกใจ ให้มั่นคงในศีล เป็นการให้ที่ครอบคลุมทุกชีวิตรอบตัวเรา ไม่จำกัดเวลาและสถานที่
คุณค่าของมหาทานในสังคมปัจจุบัน
ในยุคที่ความปลอดภัยทางกาย ใจ และสังคมเป็นสิ่งหายาก การที่บุคคลหนึ่งตั้งใจรักษาศีล จึงเปรียบเสมือน “แหล่งพลังบวก” ที่แผ่ความสบายใจให้แก่คนรอบข้าง เป็นการให้ที่ยั่งยืนกว่าการให้วัตถุ เพราะไม่สิ้นสุดลงทันทีที่สิ่งของหมดไป แต่คงอยู่ตราบเท่าที่ผู้ให้ยังรักษาศีลนั้นอยู่
บทสรุป
มหาทาน ๕ ประการ คือการให้ความปลอดภัยผ่านการเว้นละบาปทางกาย วาจา และใจ เป็นการให้ที่ใครก็ทำได้ แม้ไม่มีทรัพย์สินเลย แต่ต้องอาศัยความตั้งใจจริง เป็นการให้ที่พระพุทธเจ้าสรรเสริญว่าเลิศที่สุด และเป็นทางสร้างบุญกุศลอย่างยั่งยืน
พระสูตรต้นฉบับ (พุทธวจน)
[ทาน ที่จัดว่าเป็น มหาทาน]
-บาลี อฏฺก. อํ. ๒๓/๒๕๐/๑๒๙.ภิกษุทั้งหลาย ! อริยสาวก ในกรณีนี้ ละปาณาติบาต เว้นขาดจากปาณาติบาต. ภิกษุทั้งหลาย ! อริยสาวกเว้นขาดจากปาณาติบาตแล้ว ย่อมชื่อว่า ให้อภัยทาน อเวรทาน อัพยาปัชฌทาน แก่สัตว์ทั้งหลายมากไม่มีประมาณ; ครั้นให้อภัยทาน อเวรทาน อัพยาปัชฌทาน แก่สัตว์ทั้งหลายมากไม่มีประมาณแล้ว ย่อมเป็นผู้ มีส่วนแห่งความไม่มีภัย ไม่มีเวร ไม่มีความเบียดเบียน อันไม่มีประมาณ. ภิกษุทั้งหลาย ! นี้เป็นทานชั้นปฐม เป็นมหาทาน รู้จักกันว่าเป็นของเลิศ เป็นของมีมานาน เป็นของประพฤติสืบกันมาแต่โบราณ ไม่ถูกทอดทิ้งเลย ไม่เคยถูกทอดทิ้งในอดีต ไม่ถูกทอดทิ้งอยู่ในปัจจุบัน และจักไม่ถูกทอดทิ้งในอนาคต อันสมณพราหมณ์ผู้รู้ไม่คัดค้าน. ภิกษุทั้งหลาย ! ข้อนี้เป็นท่อธารแห่งบุญ เป็นที่ไหลออกแห่งกุศล นำมาซึ่งสุข เป็นไปเพื่อยอดสุดอันดี มีสุขเป็นวิบาก เป็นไปเพื่อสวรรค์ เป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูลเพื่อความสุขอันพึงปรารถนา น่ารักใคร่ น่าพอใจ.(ในกรณีศีล ๕ อีกสี่ข้อที่เหลือ คือ การเว้นขาดจากอทินนาทาน, การเว้นขาดจากกาเมสุมิฉาจาร, การเว้นขาดจากมุสาวาท และการเว้นขาดจากการดื่มน้ำเมา คือสุราและเมรัย อันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท ก็ตรัสอย่างเดียวกัน)ภิกษุทั้งหลาย ! ทาน ๕ ประการนี้แล เป็นมหาทานรู้จักกันว่าเป็นของเลิศ เป็นของมีมานาน เป็นของประพฤติสืบกันมาแต่โบราณ ไม่ถูกทอดทิ้งเลย ไม่เคยถูกทอดทิ้งในอดีต ไม่ถูกทอดทิ้งอยู่ในปัจจุบัน และจักไม่ถูกทอดทิ้งในอนาคต อันสมณพราหมณ์ผู้รู้ไม่คัดค้าน.