พุทธวจน

ฝึกจิตให้มั่นคงดั่งธาตุ: เคล็ดลับพระพุทธเจ้าสำหรับใจที่ไม่หวั่นไหว

ฝึกจิตให้มั่นคงดั่งธาตุ: เคล็ดลับพระพุทธเจ้าสำหรับใจที่ไม่หวั่นไหว

สารบัญ

 

จิตที่มั่นคงไม่หวั่นไหว ด้วยพลังแห่งธรรมชาติทั้ง ๕

พระพุทธเจ้าได้ทรงสอนราหุลภิกษุผู้เป็นโอรส ให้เจริญจิตให้เสมอด้วยธาตุต่าง ๆ ได้แก่ ธาตุดิน น้ำ ไฟ ลม และอากาศ ทั้งนี้ไม่ใช่เพียงเพื่อการเปรียบเทียบอย่างงดงามในเชิงวรรณศิลป์ แต่เป็นหลักปฏิบัติที่ลึกซึ้งและสามารถนำมาใช้ในการฝึกจิตให้มั่นคง ท่ามกลางกระแสแห่งผัสสะในชีวิตประจำวัน

ธาตุดิน: ความหนักแน่นอดทน

แผ่นดินไม่เลือกว่าจะรองรับสิ่งที่สะอาดหรือสกปรก มันไม่รังเกียจหรือหวั่นไหวต่อสิ่งใด เช่นนั้นแล จิตที่ฝึกดีแล้วย่อมไม่หวั่นไหวต่อคำชมคำด่า ความยินดีหรือความไม่พอใจ ไม่ว่าจะมีสิ่งใดมา "ตกใส่" จิตนั้นก็หนักแน่น มั่นคง ไม่แปรปรวน

ธาตุน้ำ: การชำระล้างอย่างไม่เลือกปฏิบัติ

สายน้ำยอมรับสิ่งสกปรกทั้งหลายมาชำระล้าง โดยไม่รู้สึกอึดอัด ไม่ปฏิเสธ นี่คือการฝึกจิตให้สามารถ "ไหลผ่าน" อารมณ์ทั้งหลายโดยไม่ติดขัด ไม่สะสมไว้ในใจ ให้จิตล้างตนเองได้ด้วยความเข้าใจ

ธาตุไฟ: แผดเผาโดยไม่เลือกหน้า

ไฟไหม้สิ่งทั้งหลาย ไม่ว่าเลวหรือดี ให้กลายเป็นเถ้าโดยเท่าเทียม จิตที่เปรียบเสมือนไฟคือจิตที่ฝึกให้รู้เท่าทันกิเลส และสามารถแผดเผากิเลสด้วยปัญญา โดยไม่ลำเอียง ไม่ปรุงแต่ง ไม่เพิกเฉยต่อสิ่งที่ควรกำจัด

ธาตุลม: เคลื่อนไหวอิสระและไม่ยึดติด

ลมพัดผ่านทุกสิ่งอย่าง โดยไม่ถูกจับ ไม่ยึด ไม่กลัวสิ่งที่มาปะทะ จิตที่เหมือนลมคือจิตที่เป็นอิสระจากความยึดมั่น ถือมั่น และสามารถ "ผ่านไปได้" แม้เผชิญสิ่งเร้าใด ๆ ก็ตาม

ธาตุอากาศ: ปราศจากการตั้งอยู่เฉพาะ

อากาศไม่ถูกจำกัดด้วยขอบเขต จิตที่เป็นเช่นอากาศคือจิตที่ไม่ถูกครอบงำด้วยกรอบของอารมณ์ ความรู้สึก หรืออัตตา มันโปร่ง เบา และสามารถโอบรับได้ทุกสิ่ง โดยไม่เป็นของสิ่งใด

สรุป: การอบรมจิตตามธรรมชาติ

การอบรมจิตให้เสมอด้วยธาตุทั้ง ๕ คือการกลับคืนสู่ความมั่นคงดั้งเดิมของจิต ที่ไม่ถูกรบกวนจากโลกภายนอก เมื่อจิตตั้งมั่นดังธาตุเหล่านี้แล้ว ผัสสะทั้งที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจ ก็ไม่สามารถกลุ้มรุมจิตได้อีกต่อไป

นี่คือการฝึกที่ไม่เพียงเพื่อความสงบ แต่เพื่อการหลุดพ้นอย่างแท้จริง


พระสูตรต้นฉบับ (พุทธวจน)

[ให้เป็นผู้หนักแน่น]

-บาลี ม. ม. ๑๓/๑๓๘-๑๔๐/๑๔๐.
 
ราหุล !  เธอจงอบรมจิตให้เสมอด้วยแผ่นดิน (ปฐวี) เถิด เมื่อเธออบรมจิตให้เสมอด้วยแผ่นดินอยู่, ผัสสะทั้งหลายที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจอันเกิดขึ้นแล้ว จักไม่กลุ้มรุมจิตตั้งอยู่. 
 
ราหุล !  เปรียบเหมือนเมื่อคนเขาทิ้งของสะอาดบ้าง ไม่สะอาดบ้าง ทิ้งคูถบ้าง ทิ้งมูตรบ้าง ทิ้งน้ำลายบ้าง หนองบ้าง โลหิตบ้าง ลงบนแผ่นดิน แผ่นดินก็ไม่รู้สึกอึดอัดระอารังเกียจ ด้วยสิ่งเหล่านั้น, นี้ฉันใด; 
 
ราหุล !  เธอจงอบรมจิตให้เสมอด้วยแผ่นดินเถิด เมื่อเธออบรมจิตให้เสมอด้วยแผ่นดินอยู่, ผัสสะทั้งหลายที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจอันเกิดขึ้นแล้ว จักไม่กลุ้มรุมจิตตั้งอยู่ ฉันนั้นเหมือนกัน.
----------------
 
ราหุล !  เธอจงอบรมจิตให้เสมอด้วยน้ำ (อาโป) เถิด เมื่อเธออบรมจิตให้เสมอด้วยน้ำอยู่, ผัสสะทั้งหลายที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจอันเกิดขึ้นแล้ว จักไม่กลุ้มรุมจิตตั้งอยู่.
 
ราหุล ! เปรียบเหมือนเมื่อคนเขาล้างของสะอาดบ้าง ไม่สะอาดบ้าง ล้างคูถบ้าง ล้างมูตรบ้าง น้ำลายบ้าง หนองบ้าง โลหิตบ้าง ลงในน้ำ น้ำก็ไม่รู้สึกอึดอัดระอารังเกียจ ด้วยสิ่งเหล่านั้น, นี้ฉันใด; 
 
ราหุล !  เธอจงอบรมจิตให้เสมอด้วยน้ำเถิด เมื่อเธออบรมจิตให้เสมอด้วยน้ำอยู่, ผัสสะทั้งหลายที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจอันเกิดขึ้นแล้ว จักไม่กลุ้มรุมจิตตั้งอยู่ ฉันนั้นเหมือนกัน.
----------------
 
ราหุล !  เธอจงอบรมจิตให้เสมอด้วยไฟ (เตโช) เถิด เมื่อเธออบรมจิตให้เสมอด้วยไฟอยู่, ผัสสะทั้งหลายที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจอันเกิดขึ้นแล้ว จักไม่กลุ้มรุมจิตตั้งอยู่. 
 
ราหุล !  เปรียบเหมือนเมื่อคนทิ้งของสะอาดบ้างไม่สะอาดบ้าง ทิ้งคูถบ้าง ทิ้งมูตรบ้าง น้ำลายบ้าง หนองบ้าง โลหิตบ้าง ลงไปให้มันไหม้ ไฟก็ไม่รู้สึกอึดอัดระอารังเกียจ ด้วยสิ่งเหล่านั้น, นี้ฉันใด; 
 
ราหุล !  เธอจงอบรมจิตให้เสมอด้วยไฟเถิด เมื่อเธออบรมจิตให้เสมอด้วยไฟอยู่, ผัสสะทั้งหลายที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจอันเกิดขึ้นแล้ว จักไม่กลุ้มรุมจิตตั้งอยู่ ฉันนั้นเหมือนกัน. 
----------------
 
ราหุล !  เธอจงอบรมจิตให้เสมอด้วยลม (วาโย) เถิด เมื่อเธออบรมจิตให้เสมอด้วยลมอยู่, ผัสสะทั้งหลายที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจอันเกิดขึ้นแล้ว จักไม่กลุ้มรุม
จิตตั้งอยู่. 
 
ราหุล !  เปรียบเหมือนลมพัดผ่านไปในของสะอาดบ้าง ไม่สะอาดบ้าง คูถบ้าง มูตรบ้าง น้ำลายบ้าง หนองบ้าง โลหิตบ้าง ลมก็ไม่รู้สึกอึดอัดระอารังเกียจ ด้วยสิ่งเหล่านั้น, นี้ฉันใด; 
 
ราหุล !  เธอจงอบรมจิตให้เสมอด้วยลมเถิด เมื่อเธออบรมจิตให้เสมอด้วยลมอยู่, ผัสสะทั้งหลายที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจอันเกิดขึ้นแล้ว จักไม่กลุ้มรุมจิตตั้งอยู่ ฉันนั้นเหมือนกัน.
----------------
 
ราหุล !  เธอจงอบรมจิตให้เสมอด้วยอากาศ เถิด เมื่อเธออบรมจิตให้เสมอด้วยอากาศอยู่, ผัสสะทั้งหลายที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจอันเกิดขึ้นแล้ว จักไม่กลุ้มรุมจิตตั้งอยู่. 
 
ราหุล !  เปรียบเหมือนอากาศ เป็นสิ่งมิได้ตั้งอยู่เฉพาะในที่ไรๆ นี้ฉันใด;  ราหุล !  เธอจงอบรมจิตให้เสมอด้วยอากาศเถิด เมื่อเธออบรมจิตให้เสมอด้วยอากาศอยู่, ผัสสะทั้งหลายที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจอันเกิดขึ้นแล้ว จักไม่กลุ้มรุมจิตตั้งอยู่ ฉันนั้นเหมือนกัน.
----------------

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *