พุทธวจน

เมื่อคำพูดของตถาคตไม่ใช่แค่คำพูด: ศิลปะแห่งวาจาที่ถูกกาล ถูกธรรม

เมื่อคำพูดของตถาคตไม่ใช่แค่คำพูด: ศิลปะแห่งวาจาที่ถูกกาล ถูกธรรม

สารบัญ

 วาจาที่มากกว่าคำพูด

หลายคนอาจเข้าใจว่าการพูดความจริงคือความดีอย่างหนึ่ง และการพูดสิ่งที่คนฟังอยากฟังคืออีกอย่างหนึ่ง แต่สำหรับตถาคตแล้ว คำพูดไม่ใช่แค่เครื่องมือในการสื่อสาร ทว่ายังเป็นสื่อแห่งธรรมะที่ต้องประกอบด้วยองค์ประกอบสามประการ คือ "จริง" "มีประโยชน์" และ "ถูกกาล"

ในพระสูตรที่ตถาคตตรัสกับราชกุมาร ตถาคตแสดงให้เห็นถึงหลักแห่งวาจาอันประเสริฐ ที่ไม่ใช่เพียงการพูดความจริง หรือการพูดให้ผู้ฟังพึงใจ แต่ต้องเป็นการพูดที่ครบองค์ประกอบแห่งความดีงามอย่างแท้จริง นั่นคือ ความจริง + ประโยชน์ + กาลอันเหมาะสม


หลักเกณฑ์ 6 ประการ แห่งวาจาของตถาคต

จากพระสูตรนี้ เราสามารถจำแนกออกมาได้เป็น 6 ลักษณะของวาจาที่ตถาคต "เลือกกล่าว" และ "ไม่กล่าว" ดังนี้:

  1. ไม่จริง ไม่เป็นประโยชน์ ไม่เป็นที่รัก → ไม่กล่าว

  2. จริง แต่ไม่เป็นประโยชน์ ไม่เป็นที่รัก → ไม่กล่าว

  3. จริง มีประโยชน์ แต่ไม่เป็นที่รัก → กล่าวเมื่อถึงกาลอันเหมาะสม

  4. ไม่จริง ไม่เป็นประโยชน์ แต่เป็นที่รัก → ไม่กล่าว

  5. จริง แต่ไม่เป็นประโยชน์ แต่เป็นที่รัก → ไม่กล่าว

  6. จริง มีประโยชน์ และเป็นที่รัก → กล่าวเมื่อถึงกาลอันเหมาะสม

จะเห็นได้ว่า แม้จะเป็นวาจาที่เป็นความจริง แต่ถ้าไม่ประกอบด้วยประโยชน์ ตถาคตก็ไม่กล่าว แม้จะเป็นสิ่งที่ผู้ฟังอยากฟัง หากไม่มีประโยชน์หรือไม่ใช่กาล ก็มิใช่วาจาที่ควรออกจากปากตถาคต


ความลึกซึ้งที่ซ่อนอยู่

พระสูตรนี้ไม่เพียงให้หลักแห่งการพูดที่ดีแก่พุทธศาสนิกชนทั่วไปเท่านั้น แต่ยังเผยให้เห็นวิธีคิดของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในฐานะผู้ตรัสรู้ว่า การพูดเป็นหนึ่งในเครื่องมือแห่งการยังประโยชน์ต่อสรรพสัตว์ ไม่ใช่เพื่อเอาใจ ไม่ใช่เพื่อความสะใจ ไม่ใช่แม้แต่เพื่อแสดงความจริงล้วน ๆ หากขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งจากสามองค์ประกอบดังกล่าว ก็ไม่ควรกล่าว

นี่คือจริยธรรมที่เหนือชั้นกว่าหลักศีล 5 หรือศีล 8 เพราะเป็นการใช้วาจาเพื่อประโยชน์สูงสุด ไม่เบียดเบียน ไม่อิงอารมณ์ของตน ไม่เอาใจใคร แต่ใช้วาจาอย่างมีธรรมวินัยและเมตตาปัญญา


ประโยชน์ในยุคปัจจุบัน

ลองพิจารณาชีวิตในยุคโซเชียลมีเดีย ที่ใคร ๆ ก็สามารถโพสต์ แสดงความคิดเห็น แชร์ข่าวสาร หรือด่าทอคนอื่นได้อย่างรวดเร็วและไม่ไตร่ตรอง การยึดหลักวาจาแบบตถาคตจึงเป็นแนวทางอันประเสริฐในการใช้ชีวิตร่วมกับสังคม

  • ถามตัวเองก่อนโพสต์ว่า "สิ่งนี้จริงหรือไม่?"

  • ถามต่อว่า "เป็นประโยชน์หรือไม่?"

  • และสุดท้าย "นี่ใช่กาลอันเหมาะสมหรือไม่?"

เพียงเท่านี้ โลกใบนี้ก็จะเต็มไปด้วยวาจาที่ไม่เบียดเบียน เต็มไปด้วยธรรมะในถ้อยคำ และลดทอนทุกข์จากคำพูดที่ขาดเมตตาและสติได้มหาศาล


แนบต้นฉบับพระสูตร

ลักษณะการพูดของตถาคต

-บาลี ม. ม. ๑๓/๙๑/๙๔.
 
ราชกุมาร !  ตถาคตรู้ชัดซึ่งวาจาใด อันไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ และไม่เป็นที่รักที่พึงใจของผู้อื่น ตถาคตย่อม ไม่กล่าววาจานั้น.
 
ตถาคตรู้ชัดซึ่งวาจาใด อันจริง อันแท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์และไม่เป็นที่รักที่พึงใจของผู้อื่น ตถาคตย่อม ไม่กล่าววาจานั้น.
 
ตถาคตรู้ชัดซึ่งวาจาใด อันจริง อันแท้ ประกอบ ด้วยประโยชน์ แต่ไม่เป็นที่รักที่พึงใจของผู้อื่น ตถาคตย่อม เลือกให้เหมาะกาล เพื่อกล่าววาจานั้น.
 
ตถาคตรู้ชัดซึ่งวาจาใด อันไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ แต่เป็นที่รักที่พึงใจของผู้อื่น ตถาคตย่อม ไม่กล่าววาจานั้น.
 
ตถาคตรู้ชัดซึ่งวาจาใด อันจริง อันแท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ แต่ก็เป็นที่รักที่พึงใจของผู้อื่น ตถาคตย่อม ไม่กล่าววาจานั้น.
 
ตถาคตรู้ชัดซึ่งวาจาใด อันจริง อันแท้ ประกอบด้วยประโยชน์และเป็นที่รักที่พึงใจของผู้อื่น ตถาคตย่อมเป็นผู้ รู้จักกาละที่เหมาะ เพื่อกล่าววาจานั้น.

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *