พระพุทธเจ้าไม่ได้ทรงประพฤติพรหมจรรย์ เพื่อให้ใครนับถือ
สารบัญ
Toggleเราปฏิบัติธรรมเพื่ออะไร?
ในสังคมทุกวันนี้ หลายคนสนใจการปฏิบัติธรรม บางคนอยากได้ชื่อเสียง อยากให้คนยกย่องว่าตนเป็นผู้รู้ บางคนหวังบุญ หวังผลตอบแทน หรือแม้แต่ใช้ธรรมะเป็นเครื่องมือสร้างอำนาจในสังคม แต่พระพุทธเจ้าตรัสชัดว่า การประพฤติพรหมจรรย์นั้น ไม่ใช่เพื่อสิ่งเหล่านี้เลย หากแต่มีจุดหมายเดียว คือ การดับทุกข์
พระสูตรนี้จึงเป็นเหมือนกระจกสะท้อนให้เราได้ทบทวนว่า ที่เราศึกษาและปฏิบัติอยู่นั้น แท้จริงแล้วเรากำลังเดินไปสู่เป้าหมายตามพุทธวจน หรือกำลังเดินไปตามแรงปรารถนาของตนเองกันแน่
พรหมจรรย์: ไม่ใช่เพื่อชื่อเสียงหรือลาภสักการะ
พระพุทธองค์ตรัสว่า:
“ภิกษุทั้งหลาย! พรหมจรรย์นี้เราประพฤติ มิใช่เพื่อหลอกลวงคนให้นับถือ มิใช่เพื่อเรียกคนมาเป็นบริวาร มิใช่เพื่ออานิสงส์เป็นลาภสักการะ และเสียงสรรเสริญ มิใช่เพื่ออานิสงส์จะได้เป็นเจ้าลัทธิ หรือเพื่อล้มลัทธิอื่น …”
(จตุกฺก. อํ. ๒๑/๓๓/๒๕)
ประโยคนี้ตัดรากความเข้าใจผิดได้เด็ดขาดว่า การบวชหรือการปฏิบัติธรรมมิได้มีไว้เพื่อผลประโยชน์ทางโลก ไม่ว่ารูปแบบใดๆ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็น มายา ที่อาจดึงใจผู้ปฏิบัติให้หลงไปจากทางสายตรง
🔗 อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ลาภสักการะ
จุดหมายแท้จริงของพรหมจรรย์: เพื่อดับทุกข์
พระองค์ทรงสรุปชัดเจนว่า:
“ภิกษุทั้งหลาย! ที่แท้ พรหมจรรย์นี้เราประพฤติเพื่อสำรวม เพื่อละ เพื่อคลายกำหนัด เพื่อดับสนิทซึ่งทุกข์แล”
นี่คือหัวใจของพระศาสนา — ไม่ใช่การแสวงหาอัตลักษณ์ใหม่ แต่เป็นการ คลายการยึดมั่น และ ปล่อยวางกิเลสตัณหา ซึ่งเป็นเหตุแห่งทุกข์
เมื่อสำรวมอินทรีย์ได้ → ใจย่อมสงบ
เมื่อสงบ → ย่อมละกิเลสได้
เมื่อกิเลสเบาบาง → กำหนัดย่อมคลาย
และที่สุด → ดับทุกข์สนิท
🔗 ดูเพิ่มเติมเกี่ยวกับ อริยสัจ ๔
บทเรียนสู่ชีวิตประจำวัน
แม้เราจะไม่ได้บวช แต่คำสอนนี้เตือนใจเราว่า ทุกการปฏิบัติ ไม่ว่าจะเป็นการทำสมาธิ การรักษาศีล หรือแม้แต่การฟังธรรม ก็ไม่ควรทำเพียงเพื่อ “ให้คนชม” หรือ “สะสมบุญไว้ใช้” แต่ควรทำด้วยจิตที่มุ่งไปสู่การ ดับทุกข์ในปัจจุบัน
- สำรวม: ระวังตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ไม่ปล่อยใจไหลไปตามอารมณ์
- ละ: ตัดสิ่งที่ทำให้ใจหนัก เช่น ความโกรธ ความโลภ ความหลง
- คลายกำหนัด: ลดความอยากครอบครองสิ่งต่างๆ
- ดับทุกข์: เข้าถึงความสงบและอิสระทางใจ
🔗 ศึกษาเพิ่มเติมเรื่อง สมถะและวิปัสสนา
สรุป
พระพุทธเจ้าตรัสชัดว่า การประพฤติพรหมจรรย์ ไม่ใช่เพื่อโลกธรรม แต่เพื่อจุดหมายอันสูงสุด คือ การดับทุกข์
เมื่อเราน้อมนำคำสอนนี้มาพิจารณา เราจะเห็นทิศทางชัดเจนในการปฏิบัติธรรม ว่าควรตั้งเจตนาให้บริสุทธิ์ ไม่หวังชื่อเสียง ไม่หวังลาภ แต่ทำเพื่อความพ้นทุกข์ของตนเอง
บทความอื่นที่น่าสนใจ
แหล่งอ้างอิง
- E-Tipitaka: https://etipitaka.com
- วัดนาป่าพง: https://watnapp.com/
พระสูตรต้นฉบับ (พุทธวจน เล่มเล็ก ฉบับที่ ๑ ตามรอยธรรม)
๑๔. ไม่ได้ทรงประพฤติพรหมจรรย์ เพื่อให้เขานับถือ
-บาลี จตุกฺก. อํ. ๒๑/๓๓/๒๕.ภิกษุทั้งหลาย ! พรหมจรรย์นี้เราประพฤติ มิใช่เพื่อหลอกลวงคนให้นับถือ มิใช่เพื่อเรียกคนมาเป็นบริวาร มิใช่เพื่ออานิสงส์เป็นลาภสักการะ และเสียงสรรเสริญ มิใช่เพื่ออานิสงส์จะได้เป็นเจ้าลัทธิ หรือเพื่อค้านลัทธิอื่นใดให้ล้มลงไป และมิใช่เพื่อให้มหาชนเข้าใจว่า เราได้เป็นผู้วิเศษอย่างนั้นอย่างนี้ ก็หามิได้.ภิกษุทั้งหลาย ! ที่แท้ พรหมจรรย์นี้ เราประพฤติเพื่อสำรวม เพื่อละ เพื่อคลายกำหนัด เพื่อดับสนิทซึ่งทุกข์ แล.