พุทธวจน

ความหลุดพ้นจากตัณหา: เมื่อจิตรู้จักนายช่างปลูกเรือน

พระพุทธเจ้าประทับนิ่งขณะตัณหาผู้สร้างเรือนถูกทำลาย

สารบัญ

คุณเคยรู้สึกไหมว่าไม่ว่าจะเติมเต็มแค่ไหน ใจก็ยังไม่พอ? เราซื้อของที่อยากได้ เที่ยวที่อยากไป รักในสิ่งที่ชอบ แต่ใจกลับยังโหวงอยู่ภายใน... พระสูตรนี้ของพุทธวจนให้คำตอบชัดเจน — เพราะใจเรายังไม่ "รู้จักนายช่างปลูกเรือน" นั่นคือ “ตัณหา” ผู้ก่อสร้างความเกิดและทุกข์ซ้ำ ๆ ไม่จบสิ้น


พระสูตรกล่าวว่า:

"แน่ะ นายช่างผู้ปลูกสร้างเรือน! เรารู้จักเจ้าเสียแล้ว, เจ้าจักสร้างเรือนให้เราต่อไปอีกไม่ได้..."

คำว่า "เรือน" ในที่นี้ คือ “ภพ” หรืออัตตภาพใหม่ที่เกิดขึ้นจากกิเลสและอวิชชา ขณะที่ “ตัณหา” คือนายช่างผู้ก่อสร้างมันขึ้นมาเรื่อย ๆ


การท่องเที่ยวในสังสารวัฏ: การเกิดอีกเป็นอเนกชาติ

พระพุทธองค์ตรัสอย่างลึกซึ้งว่า ก่อนตรัสรู้ พระองค์ “ท่องเที่ยวไปในสังสารวัฏ” ด้วยการเกิดใหม่ซ้ำ ๆ เป็นเวลานานนับไม่ถ้วน เหตุเพราะยังไม่รู้จักผู้ที่เป็นต้นเหตุของความเกิด — ตัณหานั่นเอง

🔗 คำสำคัญ: ท่องเที่ยวในสังสารวัฏ


การรู้จัก "ตัณหา" คือการรู้จักศัตรูแท้ของจิต

ตัณหาในพุทธวจนไม่ใช่แค่ความอยากในรูป เสียง กลิ่น รส แต่คือกระแสของความยึดติด ความดิ้นรน ความแสวงหา และความไม่พอใจในปัจจุบัน พระองค์เรียกสิ่งนี้ว่า “นายช่างปลูกเรือน

ตัณหา คือ:

  • ความอยากมี อยากเป็น อยากไม่เป็น
  • ตัวสร้างการยึดติดในขันธ์ 5
  • เหตุให้เกิดอัตตภาพซ้ำ ๆ

โครงเรือนกับยอดเรือน: กิเลสและอวิชชา

"โครงเรือนของเจ้า เราหักเสียยับเยินหมดแล้ว, ยอดเรือน เราขยี้เสียแล้ว..."

โครงเรือนในที่นี้คือกิเลสทั้งปวง เช่น โลภะ โทสะ โมหะ
ยอดเรือน คือ อวิชชา — ความไม่รู้จริงในอริยสัจสี่

การขยี้ยอดเรือนคือการตรัสรู้อริยสัจสี่อย่างแจ่มชัด


จิตที่ไม่ถูกรบกวนอีกต่อไป

"จิตของเรา ถึงความเป็นธรรมชาติ ที่อารมณ์จะยุแหย่ ยั่วเย้าไม่ได้เสียแล้ว..."

นั่นคือจิตที่ไม่หวั่นไหวต่อโลกธรรมอีกต่อไป
ไม่ถูกยั่วยวนด้วยสุข ไม่หวั่นไหวด้วยทุกข์
ไม่ถูกผลักด้วยชอบ ไม่ถูกดึงด้วยไม่ชอบ


ลุถึงความหมดอยากทุกอย่าง

"มันได้ลุถึงความหมดอยากทุกอย่าง" — นี่คือจิตที่ไม่เหลือ "ตัณหา" อยู่แม้เพียงนิดเดียว ไม่มีอะไรในโลกรูป–นามที่สามารถดึงให้หลงได้อีกแล้ว


สรุป:

พระสูตรนี้คือภาพแท้ของ "นิพพาน" — จิตที่ดับกิเลสโดยสิ้นเชิง ไม่มีเชื้อเกิดใหม่ ไม่มีสิ่งใดยั่วเย้าได้อีกต่อไป

ผู้ที่ “รู้จักตัณหา” อย่างชัดแจ้งเท่านั้น ที่จะ “ไม่สร้างเรือนใหม่” ได้อีกเลย


🔗 บทความอื่นที่น่าสนใจ:


📚 แหล่งอ้างอิง:

พระสูตรต้นฉบับ (พุทธวจน เล่มเล็ก ฉบับที่ 9 ปฐมธรรม)

[๑๒๐ ความรู้สึกภายในใจ เมื่อละตัณหา(ความอยาก) ได้ ]

-บาลี ธ. ขุ. ๒๕/๓๕/๒๑.
 
เราเมื่อยังค้นไม่พบแสงสว่าง, มัวเสาะหานายช่างปลูกเรือน (คือตัณหา ผู้ก่อสร้างเรือนคืออัตตภาพ) อยู่, ได้ท่องเที่ยวไปในสังสารวัฏ กล่าวคือ ความเกิดแล้ว เกิดอีกเป็นอเนกชาติ ความเกิดเป็นทุกข์ร่ำไปทุกชาติ. 
แน่ะ นายช่างผู้ปลูกสร้างเรือน ! เรารู้จักเจ้าเสียแล้ว, เจ้าจักสร้างเรือนให้เราต่อไปอีกไม่ได้, โครงเรือน (คือกิเลสที่เหลือเป็นเชื้อเกิดใหม่) ของเจ้า เราหักเสียยับเยินหมดแล้ว ยอดเรือน (คืออวิชชา) เราขยี้เสียแล้ว, จิตของเรา ถึงความเป็นธรรมชาติ ที่อารมณ์จะยุแหย่ ยั่วเย้าไม่ได้เสียแล้ว มันได้ลุถึงความหมดอยากทุกอย่าง.

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *