ความเพลิน คือทางสู่อุปาทาน และความทุกข์ทั้งปวง
สารบัญ
Toggleหลายคนเข้าใจว่า “สุข” คือสิ่งที่ควรไขว่คว้า ยิ่งรู้สึกดี ยิ่งรู้สึกเพลิดเพลิน ยิ่งต้องรักษาไว้ให้ได้... แต่ในคำสอนของพระพุทธเจ้า กลับเผยให้เห็นว่า “ความเพลิน” หรือ "นันทิ" นี้เอง คือจุดเริ่มต้นของความทุกข์ทั้งปวงในวัฏฏสงสาร
ในพระสูตร ขันธสังยุตต์ ข้อ ๑๗/๑๘/๒๘ — พระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสชัดว่า “ความเพลินในรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ เป็นอุปาทาน เพราะอุปาทานนั้นเป็นปัจจัย จึงเกิดภพ → ชาติ → ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส อุปายาส”.
ความเพลินในขันธ์ห้า คืออะไร?
รูป — การหลงใหลในสิ่งที่มองเห็น เสียง กลิ่น รส สัมผัส รูปร่างลักษณะต่างๆ
เวทนา — ความสุขหรือทุกข์ที่รู้สึกในใจ
สัญญา — การจดจำหมายรู้สิ่งต่างๆ
สังขาร — การคิด ปรุงแต่ง
วิญญาณ — การรับรู้ผ่านตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ
ความเพลินในสิ่งเหล่านี้ เกิดจาก ความยึดถือว่าเป็นของเรา เป็นตัวเรา เมื่อเพลิดเพลิน ก็ยึด ยึดแล้วก็ “อุปาทาน”
วัฏฏะของความทุกข์
นันทิ (เพลิน) → เป็น อุปาทาน
อุปาทาน → ให้เกิด ภพ (การมีตัวตนในภพนั้นๆ)
ภพ → ก่อ ชาติ
ชาติ → ก่อ ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส อุปายาส
ซึ่งก็คือ ความทุกข์ทั้งหมดในชีวิต... ล้วนเริ่มจากความเพลินนี้เอง.
ทำไมต้องหยุดที่ “เพลิน”?
เพราะหากเราตัด “เพลิน” ได้เสียแต่ต้น ก็จะไม่มีอุปาทาน ไม่เกิดภพ ไม่เกิดชาติ และไม่ต้องเวียนว่ายในวัฏฏะนี้อีกต่อไป
ไม่ใช่เรื่องของการทรมานตน
แต่คือ “การรู้เห็นตามจริง” ว่าสิ่งที่เรายึดมั่นไว้ว่าเป็นสุขนั้น แท้จริงแล้วคือ ต้นเหตุแห่งทุกข์
คำสำคัญที่เกี่ยวข้อง
สรุป
“ความเพลินในรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ เป็นอุปาทาน เพราะอุปาทานนั้นเป็นปัจจัย จึงเกิดภพ…” — พุทธวจน
ดังนั้น หากเรา “รู้เท่าทันความเพลิน” ก็เท่ากับเริ่มหยุดวัฏฏะได้ตั้งแต่จุดแรกสุด
บทความอื่นที่น่าสนใจ
แหล่งอ้างอิง
พุทธวจน, ขนฺธ. สํ. ๑๗/๑๘/๒๘
E-Tipitaka: https://etipitaka.com
วัดนาป่าพง: https://watnapp.com
พระสูตรต้นฉบับ (พุทธวจน เล่มเล็ก ฉบับที่ 9)
[ความเพลิน เป็นเหตุให้เกิดทุกข์]
-บาลี ขนฺธ. สํ. ๑๗/๑๘/๒๘.ความเพลินใดในรูป, เวทนา, สัญญา, สังขาร, วิญญาณ; ความเพลินนั้น เป็นอุปาทาน;เพราะอุปาทานของเขานั้นเป็นปัจจัย จึงเกิดมีภพ;เพราะภพเป็นปัจจัย จึงเกิดมีชาติ;เพราะชาติเป็นปัจจัย ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกขะ โทมนัส และอุปายาส จึงเกิดมีพร้อม;ความก่อขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนั้น ย่อมมีได้ ด้วยอาการอย่างนี้.