พุทธวจน

4 เหตุสำคัญที่ทำให้พระศาสนาเสื่อมสูญ — คำเตือนจากพระพุทธเจ้า

4 เหตุสำคัญที่ทำให้พระศาสนาเสื่อมสูญ — คำเตือนจากพระพุทธเจ้า

สารบัญ

ทุกยุคสมัย พระพุทธศาสนาต้องเผชิญกับความท้าทายทั้งจากภายนอกและภายใน แต่สิ่งที่น่ากังวลที่สุดคือการเสื่อมจากภายในตัวศาสนาเอง พระสูตรหนึ่งในพระไตรปิฎกได้ชี้ให้เห็น "เหตุ 4 ประการ" ที่นำไปสู่ความเสื่อมสูญของพระสัทธรรมอย่างละเอียด หากเราเข้าใจเหตุเหล่านี้ เราจะรู้ว่าควรป้องกันอย่างไรเพื่อให้คำสอนของพระพุทธเจ้าดำรงอยู่ต่อไป


เหตุที่ 1: การเล่าเรียนและถ่ายทอดพระธรรมผิดเพี้ยน

พระพุทธองค์ตรัสว่า หากภิกษุเล่าเรียนพระสูตรโดยใช้บทและพยัญชนะที่ผิด ความหมายก็จะคลาดเคลื่อนไปด้วย นี่เป็นการเสื่อมจากรากฐาน เพราะเมื่อความหมายผิดเพี้ยน ผู้ปฏิบัติย่อมปฏิบัติผิด และสืบต่อความผิดนั้นไปยังรุ่นถัดไป

วิเคราะห์:
นี่ไม่ใช่เพียงการอ่านผิด แต่รวมถึงการตีความผิดหรือการแปลที่คลาดเคลื่อน การรักษาบทพยัญชนะให้ถูกต้องจึงเป็นรากฐานของการรักษาธรรมะ


เหตุที่ 2: การเป็นผู้ว่ายาก ไม่ยอมรับคำตักเตือน

ภิกษุผู้ไม่อดทนและไม่รับฟังคำตักเตือนด้วยความเคารพ จะทำให้การพัฒนาในพระธรรมสะดุด และบรรยากาศในหมู่สงฆ์เสื่อมลง

วิเคราะห์:
ความว่ายากไม่เพียงกระทบต่อการปฏิบัติส่วนบุคคล แต่ยังก่อให้เกิดความแตกแยกในหมู่สงฆ์ และลดความศรัทธาของญาติโยม


เหตุที่ 3: ผู้รู้ไม่ถ่ายทอดความรู้

แม้จะมีภิกษุผู้ทรงธรรมและทรงวินัย แต่หากไม่บอกสอนเนื้อหาพระสูตรแก่ผู้อื่น ความรู้จะขาดผู้สืบต่อ เมื่อท่านเหล่านั้นละสังขารไป ธรรมะก็จะสูญสิ้นไปด้วย

วิเคราะห์:
นี่สะท้อนว่าการเผยแผ่ไม่ใช่เพียงหน้าที่ แต่เป็นความรับผิดชอบต่อการคงอยู่ของพระสัทธรรม


เหตุที่ 4: ผู้นำสงฆ์ประพฤติย่อหย่อน

เมื่อพระเถระสะสมบริขาร ประพฤติย่อหย่อนในไตรสิกขา มีจิตข้องอยู่ในนิวรณ์ และไม่ปรารภความเพียรเพื่อบรรลุธรรม ผู้มาทีหลังจะเลียนแบบ ทำให้ความเสื่อมแพร่กระจาย

วิเคราะห์:
ผู้นำสงฆ์เป็นแบบอย่างสำคัญ หากแบบอย่างนั้นผิด ย่อมสร้างผลเสียเป็นลูกโซ่ต่อทั้งวงการสงฆ์


บทสรุป

ทั้ง 4 เหตุนี้สะท้อนว่าการเสื่อมของพระศาสนามักเริ่มจากภายใน หากเราทั้งคฤหัสถ์และบรรพชิตตระหนักและร่วมมือกันแก้ไข ย่อมเป็นการป้องกันไม่ให้พระสัทธรรมสูญหาย

พระสูตรต้นฉบับ (พุทธวจน)

[เหตุให้ศาสนาเสื่อม]

-บาลี จตุกฺก. อํ. ๒๑/๑๙๗/๑๖๐.
 
ภิกษุทั้งหลาย ! มูลเหตุ ๔ ประการเหล่านี้ ที่ทำให้พระสัทธรรมเลอะเลือนจนเสื่อมสูญไป. ๔ ประการ อะไรบ้างเล่า ?  ๔ ประการคือ :-
 
(๑) ภิกษุทั้งหลาย !  พวกภิกษุ เล่าเรียนสูตร อันถือกันมาผิด ด้วยบทพยัญชนะที่ใช้กันผิด; เมื่อบทและพยัญชนะใช้กันผิดแล้ว แม้ความหมายก็มีนัยอันคลาดเคลื่อน. 
ภิกษุทั้งหลาย !  นี้เป็น มูลกรณีที่หนึ่ง ซึ่งทำให้ พระสัทธรรมเลอะเลือนจนเสื่อมสูญไป.
 
(๒) ภิกษุทั้งหลาย !  อีกอย่างหนึ่ง, พวกภิกษุเป็นคนว่ายาก ประกอบด้วยเหตุที่ทำให้เป็นคนว่ายาก ไม่อดทน ไม่ยอมรับคำตักเตือนโดยความเคารพหนักแน่น. 
ภิกษุทั้งหลาย !  นี้เป็น มูลกรณีที่สอง ซึ่งทำให้ พระสัทธรรมเลอะเลือนจนเสื่อมสูญไป.
 
(๓) ภิกษุทั้งหลาย !  อีกอย่างหนึ่ง, พวกภิกษุเหล่าใด เป็นพหุสูต คล่องแคล่วในหลักพระพุทธวจน ทรงธรรม ทรงวินัย ทรงมาติกา (แม่บท) ภิกษุเหล่านั้นไม่ได้เอาใจใส่บอกสอนใจความแห่งสูตรทั้งหลายแก่คนอื่นๆ เมื่อท่านเหล่านั้นล่วงลับไป สูตรทั้งหลายก็เลยขาดผู้เป็นมูลราก (อาจารย์) ไม่มีที่อาศัยสืบไป. 
ภิกษุทั้งหลาย !  นี้เป็น มูลกรณีที่สาม ซึ่งทำให้ พระสัทธรรมเลอะเลือนจนเสื่อมสูญไป. 
 
(๔) ภิกษุทั้งหลาย !  อีกอย่างหนึ่ง พวกภิกษุชั้นเถระ ทำการสะสมบริกขาร ประพฤติย่อหย่อนในไตรสิกขา มีจิตต่ำด้วยอำนาจแห่งนิวรณ์ ไม่เหลียวแลในกิจแห่งวิเวกธรรม ไม่ปรารภความเพียร เพื่อถึงสิ่งที่ยังไม่ถึง เพื่อบรรลุสิ่งที่ยังไม่บรรลุ เพื่อทำให้แจ้งในสิ่งที่ยังไม่ทำให้แจ้ง ผู้บวชในภายหลังได้เห็นพวกเถระเหล่านั้นทำแบบแผนเช่นนั้นไว้ ก็ถือเอาไปเป็นแบบอย่าง จึงทำให้เป็นผู้ทำการสะสมบริกขารบ้าง ประพฤติย่อหย่อนในไตรสิกขา มีจิตต่ำด้วยอำนาจแห่งนิวรณ์ ไม่เหลียวแลในกิจแห่งวิเวกธรรม ไม่ปรารภความเพียร เพื่อถึงสิ่งที่
ยังไม่ถึง เพื่อบรรลุสิ่งที่ยังไม่บรรลุ เพื่อทำให้แจ้งสิ่งที่ยังไม่ทำให้แจ้ง ตามกันสืบไป. 
 
ภิกษุทั้งหลาย !  นี้เป็น มูลกรณีที่สี่ ซึ่งทำให้พระสัทธรรมเลอะเลือนจนเสื่อมสูญไป.
ภิกษุทั้งหลาย !  มูลเหตุ ๔ ประการเหล่านี้แล ที่ทำให้พระสัทธรรมเลอะเลือนจนเสื่อมสูญไป.

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *