นิทานก่อนนอน, นิทานที่เล่าเรื่องราวจริงผสมจินตนาการ 🌌

[BTSR]: เรื่องเล่าจากภูเขาน้ำแข็ง

เรื่องเล่าจากภูเขาน้ำแข็ง

ในดินแดนอันหนาวเหน็บและขาวโพลนสุดลูกหูลูกตา ณ ดินแดนแอนตาร์กติกา มีภูเขาน้ำแข็งสูงใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ แต่ละปีมีนักวิทยาศาสตร์ นักสำรวจ และสิ่งมีชีวิตจากธรรมชาติที่มาพบปะกันในที่แห่งนี้ ซึ่งภูเขาน้ำแข็งแห่งหนึ่งได้กลายมาเป็นพยานเงียบ ๆ ของความลับแห่งธรรมชาติและเรื่องราวที่ไม่มีใครเคยล่วงรู้ — จนกระทั่งวันนี้…


Chapter 1: “เสียงกระซิบจากมหาสมุทร”
Chapter 1: “เสียงกระซิบจากมหาสมุทร”

เสียงลมพัดผ่านภูเขาน้ำแข็ง สอดประสานกับเสียงแตกกรอบของน้ำแข็งที่ขยับตัวอย่างแผ่วเบา “อาร์ค” — เพนกวินหนุ่มน้อยผู้ชอบสำรวจ เกิดความสงสัยเมื่อได้ยินเสียงที่เหมือนใครบางคนกำลังพูดคุยใต้พื้นน้ำแข็ง เขาตัดสินใจเดินตามเสียงนั้นจนมาถึงรอยแยกเล็ก ๆ บนพื้นน้ำแข็ง และพบว่านั่นคือปลาวาฬสีเทาตัวใหญ่ที่ชื่อว่า “ลูน่า”

“เจ้าคงจะเป็นเพนกวินที่กล้าหาญมากถึงได้มาที่นี่” ลูน่ากล่าวด้วยเสียงนุ่มนวล

“เสียงพี่ลูน่าใช่ไหมครับ? ทำไมเสียงของพี่ถึงดังมาจากใต้พื้นน้ำแข็ง?” อาร์คถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น

ลูน่าบอกเล่าว่า ใต้ภูเขาน้ำแข็งแห่งนี้มีโพรงน้ำแข็งลึกลงไปเป็นเหมือนเขาวงกตใต้สมุทร และในโพรงเหล่านั้นเต็มไปด้วยความทรงจำของโลกใบนี้ — ความลับที่ธรรมชาติซ่อนไว้


Chapter 2: “ทางเดินสู่อดีต”
Chapter 2: “ทางเดินสู่อดีต”

อาร์คตื่นเต้นกับสิ่งที่ลูน่าเล่า เขาตัดสินใจชวนลูน่าสำรวจโพรงลึกใต้ภูเขาน้ำแข็ง ทั้งสองดำดิ่งลงไปสู่ทางเดินที่แสงสะท้อนจากน้ำแข็งเหมือนแสงดาวนับล้าน ในระหว่างการเดินทาง ลูน่าเล่าถึงอดีตเมื่อภูเขาน้ำแข็งแห่งนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของแผ่นดินกว้างใหญ่ที่มีสัตว์หลากหลายอาศัยอยู่

พวกเขาผ่านห้องหนึ่งที่ดูเหมือนเวลาได้หยุดนิ่ง — น้ำแข็งที่ก่อตัวเป็นรูปร่างของต้นไม้และสัตว์ที่เคยมีชีวิตอยู่ในอดีตเหมือนกำลังเล่าเรื่องราวของยุคดึกดำบรรพ์ เสียงของธรรมชาติจากครั้งนั้นยังสะท้อนอยู่ในสายลมที่พัดผ่านโพรง


Chapter 3: “ความลับของดวงดาว”
Chapter 3: “ความลับของดวงดาว”

ในขณะที่พวกเขาเดินลึกลงไป อาร์คพบคริสตัลน้ำแข็งที่เปล่งแสงเหมือนดวงดาวบนฟ้า ลูน่าบอกว่าแสงเหล่านี้คือพลังงานที่ธรรมชาติสะสมไว้เมื่อครั้งที่โลกยังอ่อนเยาว์ ทุกคริสตัลมีเรื่องราวของมันเอง และใครก็ตามที่สามารถเข้าใจแสงเหล่านี้ได้ จะสามารถได้ยินเสียงของโลก

อาร์คลองสัมผัสคริสตัลและเห็นภาพในจินตนาการที่น่าตื่นตา เขาเห็นแม่น้ำที่ไหลผ่านป่าหนาทึบ เห็นนกบินอพยพข้ามฟ้า และเห็นแผ่นดินที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา แม้แต่ลูน่าเองยังแปลกใจที่อาร์คสามารถสัมผัสถึงพลังนี้ได้


Chapter 4: “มหาสมุทรที่เป็นพยาน”
Chapter 4: “มหาสมุทรที่เป็นพยาน”

พวกเขาเดินทางต่อไปจนถึงห้องใหญ่ที่สุดในโพรง ที่ซึ่งพื้นน้ำแข็งโปร่งแสงเหมือนกระจก เผยให้เห็นมหาสมุทรอันกว้างใหญ่เบื้องล่าง ลูน่าอธิบายว่าน้ำในมหาสมุทรมีหน้าที่บันทึกเรื่องราวทั้งหมดของโลก ทุกการเคลื่อนไหว ทุกความเปลี่ยนแปลง รวมถึงสิ่งที่มนุษย์ทำกับธรรมชาติ

อาร์คเริ่มเข้าใจว่าสิ่งเล็ก ๆ เช่นการเดินทางของเขาและลูน่า ก็มีผลกระทบต่อโลกใบนี้เช่นกัน เขารู้สึกถึงความสำคัญของการอยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างสมดุล


Chapter 5: “คำมั่นสัญญาใต้ดวงดาว”
Chapter 5: “คำมั่นสัญญาใต้ดวงดาว”

เมื่อการเดินทางสิ้นสุด อาร์คและลูน่ากลับขึ้นมาบนพื้นน้ำแข็งอีกครั้ง ภูเขาน้ำแข็งยังคงตั้งตระหง่านเหมือนเดิม แต่ในหัวใจของอาร์ค มันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เขาสัญญากับตัวเองว่าจะบอกเล่าเรื่องราวนี้ให้เพื่อน ๆ และสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ได้เข้าใจถึงความงดงามและความสำคัญของธรรมชาติ

ลูน่ายิ้มอย่างภูมิใจในตัวอาร์ค ก่อนจะกล่าวว่า “เจ้าคือส่วนหนึ่งของเรื่องเล่าแห่งโลกใบนี้ จำไว้ว่าทุกสิ่งล้วนมีเรื่องราวที่รอให้เราเข้าใจ”

และด้วยคำมั่นนั้น อาร์คเริ่มต้นการผจญภัยครั้งใหม่ในชีวิตของเขา พร้อมกับความรู้ที่เขาได้รับจากภูเขาน้ำแข็งและเพื่อนผู้ยิ่งใหญ่อย่างลูน่า


ข้อคิดจากเรื่อง: การดูแลธรรมชาติ

เรื่องนี้สอนให้เราตระหนักถึงความสำคัญของธรรมชาติและอดีตที่เป็นรากฐานของอนาคต ทุกสิ่งล้วนเชื่อมโยงกัน และการที่เราเข้าใจและดูแลธรรมชาติ จะช่วยให้โลกของเรายังคงงดงามและเต็มไปด้วยเรื่องราวที่น่าจดจำ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *