การตอบแทนบุญคุณพ่อแม่อย่างสูงสุด: ธรรมะลึกซึ้งที่เปลี่ยนชีวิต
สารบัญ
Toggle
คำว่ากตัญญู อาจเป็นคำที่ใคร ๆ ก็พูดได้ แต่ในพุทธวจน “การตอบแทนบุญคุณมารดาบิดาอย่างสูงสุด” เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ เกินกว่าการดูแลตามหน้าที่ทั่วไป บทความนี้จะเปิดเผยคำสอนของพระพุทธเจ้า ที่ชี้ให้เห็นว่าแม้จะเลี้ยงดู ปรนนิบัติพ่อแม่ด้วยสุดกำลัง ก็ยังไม่ชื่อว่าตอบแทนบุญคุณแล้ว – แล้วอะไรคือ ‘การตอบแทนอย่างแท้จริง’?
ทำไมการตอบแทนคุณพ่อแม่จึงยากยิ่ง
พระพุทธเจ้าได้ตรัสไว้อย่างหนักแน่นว่า “การกระทำตอบแทน ไม่ได้ง่าย” แม้เราจะ...
อุ้มชูพ่อแม่ไว้บนบ่า
ปรนนิบัติเขาทั้งชีวิตร้อยปี
ถวายความสุขในโลก ด้วยราชสมบัติ อิสระภาพ หรือทรัพย์สินใด ๆ
แต่สิ่งเหล่านั้นยังไม่พอที่จะเรียกว่า “ตอบแทนบุญคุณได้จริง” เพราะพ่อแม่มิใช่แค่ผู้ให้กำเนิด แต่ยังเป็นผู้บำรุงเลี้ยง และแสดงโลกนี้ให้ลูกได้รู้จัก
การตอบแทนที่พระพุทธเจ้าทรงยืนยันว่า “ตอบแทนได้แล้ว”
สิ่งที่ยิ่งกว่าสิ่งของ หรือการดูแลร่างกายคือ...
การยังพ่อแม่ให้ตั้งมั่นในคุณธรรม ๔ ประการ
ศรัทธาสัมปทา – ทำให้ท่านเชื่อในพระธรรมวินัย
ศีลสัมปทา – ทำให้ท่านงดเว้นจากอกุศล
จาคสัมปทา – ทำให้ท่านรู้จักการให้ รู้จักแบ่งปัน
ปัญญาสัมปทา – ทำให้ท่านเข้าถึงปัญญาแท้
เมื่อลูกช่วยให้พ่อแม่เดินไปในทางแห่งธรรม ลูกผู้นั้นจึงชื่อว่า “ตอบแทนแล้ว”
ความหมายสำหรับคนยุคใหม่
ในโลกยุคปัจจุบัน การตอบแทนพ่อแม่มักถูกตีความในรูปแบบของวัตถุ เช่น...
ซื้อบ้าน ซื้อรถ
ดูแลตอนแก่
ส่งเสียเลี้ยงดู
ซึ่งล้วนดี แต่ไม่ใช่ที่สุด
“ที่สุดของการตอบแทน คือช่วยให้ท่านพ้นจากทุกข์ในวัฏฏะสงสาร ด้วยธรรมะ”
พระสูตรต้นฉบับ: ๖ การตอบแทนคุณมารดาบิดาอย่างสูงสุด
-บาลี ทุก. อํ. ๒๐/๗๘/๒๗๘.
ภิกษุทั้งหลาย ! เรากล่าวการกระทำตอบแทน ไม่ได้ง่ายแก่ท่านทั้งสอง. ท่านทั้งสองนั้นคือใคร ? คือ ๑. มารดา ๒. บิดา
ภิกษุทั้งหลาย ! บุตรพึงประคับประคองมารดาด้วยบ่าข้างหนึ่ง พึงประคับประคองบิดาด้วยบ่าข้างหนึ่ง เขามีอายุมีชีวิตอยู่ตลอดร้อยปี และเขาพึงปฏิบัติท่านทั้งสองนั้นด้วยการอบกลิ่น การนวด การให้อาบน้ำและการดัด และท่านทั้งสองนั้น พึงถ่ายอุจจาระปัสสาวะบนบ่าทั้งสองของเขานั่นแหละ. ภิกษุทั้งหลาย ! การกระทำอย่างนั้นยังไม่ชื่อว่า อันบุตรทำแล้ว หรือทำตอบแทนแล้ว แก่มารดาบิดาเลย.
ภิกษุทั้งหลาย ! อนึ่ง บุตรพึงสถาปนามารดาบิดาในราชสมบัติ อันเป็นอิสราธิปัตย์ ในแผ่นดินใหญ่อันมีรตนะ ๗ ประการ มากหลายเช่นนี้ การกระทำกิจอย่างนั้น ยังไม่ชื่อว่าอันบุตรทำแล้ว หรือทำตอบแทนแล้วแก่มารดาบิดาเลย. ข้อนั้นเพราะเหตุไร ?
เพราะมารดาบิดามีอุปการะมาก บำรุงเลี้ยง แสดงโลกนี้แก่บุตรทั้งหลาย.
ส่วนบุตรคนใด ยังมารดาบิดาผู้ไม่มีศรัทธา ให้สมาทานตั้งมั่นในสัทธาสัมปทา (ความถึงพร้อมด้วยศรัทธา).
ยังมารดาบิดาผู้ทุศีล ให้สมาทานตั้งมั่นใน สีลสัมปทา (ความถึงพร้อมด้วยศีล).
ยังมารดาบิดาผู้มีความตระหนี่ ให้สมาทานตั้งมั่นในจาคสัมปทา (ความถึงพร้อมด้วยการบริจาค).
ยังมารดาบิดาทรามปัญญา ให้สมาทานตั้งมั่นในปัญญาสัมปทา (ความถึงพร้อมด้วยปัญญา).ภิกษุทั้งหลาย ! ด้วยเหตุมีประมาณเท่านี้แล การกระทำอย่างนั้นย่อมชื่อว่า อันบุตรนั้นทำแล้ว และทำตอบแทนแล้ว แก่มารดาบิดา.
สรุปส่งท้าย
การตอบแทนคุณพ่อแม่อย่างสูงสุด...
มิใช่เพียงให้ท่านอยู่ดี กินดีเท่านั้น
แต่คือการทำให้ท่าน “ถึงพร้อมด้วยธรรม” เป็นผู้มีศรัทธา ศีล จาคะ และปัญญา
เมื่อลูกช่วยพ่อแม่ก้าวพ้นวัฏสงสารได้
ลูกผู้นั้นจึงชื่อว่า “ผู้ตอบแทนอย่างแท้จริง” ตามพุทธวจน